4 กลุ่มเสี่ยงโรคไข้เลือดออก

บุคคลในภาวะเสี่ยงอันตราย เมื่อติดเชื้อโรคไข้เลือดออก

โรคไข้เลือดออก

โรคไข้เลือดออกเกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 4 สายพันธุ์ คือ DENV-1, DENV-2, DENV-3 และ DENV-4

โดยมีพาหะนำโรคคือยุงลาย หากติดเชื้อไวรัสจะมีอาการ ไข้สูงเฉียบพลันเกิน 38 องศาเซลเซียส, ปวดศีรษะ, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ, อาจพบจ้ำเลือดหรือจุดเลือดออกสีแดงเล็กๆตามบริเวณผิวหนัง  และมีอาการปวดท้องที่ชายโครงด้านขวารุนแรง

แต่อาการจะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเมื่อผู้ที่ติดเชื้อโรคไข้เลือดออกอยู่ใน 4 กลุ่มเสี่ยง ดังนี้

1. เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี

เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไข้เลือดออกมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่ อาการของโรคไข้เลือดออกในเด็กอาจไม่ชัดเจนและอาจจะทำให้วินิจฉัยได้ยาก

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปีที่เป็นไข้เลือดออก ได้แก่ ภาวะเลือดออกในสมอง, ภาวะเลือดออกในปอด, หรืออาจจะอันตรายถึงขั้นมีภาวะช็อกจากเลือดออก ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่อาจทำให้เสียชีวิตได้ 

2. หญิงตั้งครรภ์

หญิงตั้งครรภ์ จะมีภูมิคุ้มกันที่ต่ำลงในช่วงตั้งครรภ์และจะเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจส่งผลต่อทารกภายในครรภ์ เมื่อหญิงตั้งครรภ์เป็นไข้เลือดออก 
 
ผลกระทบต่อทารกในครรภ์ คือ การคลอดก่อนกำหนด และทารกจะมีน้ำหนักตัวน้อย ดังนั้น หญิงตั้งครรภ์ควรดูแลและเฝ้าระวังโรคไข้เลือดออก เพื่อความปลอดภัยต่อทารกในครรภ์และคุณแม่ที่อุ้มครรภ์เช่นกัน

3. ผู้สูงอายุ

ผู้สูงอายุ มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนในการเป็นโรคไข้เลือดออกสูงมากกว่าคนทั่วไป

เนื่องจากผู้สูงอายุจะมีภูมิคุ้มกันที่ลดลงตามอายุไขของตนเอง ทำให้ร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ผู้สูงอายุมักมีโรคประจำตัวอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน เป็นต้น

ซึ่งอาจทำให้อาการของโรคไข้เลือดออกรุนแรงขึ้นกว่าปกติ จึงควรเฝ้าระวังการเป็นโรคไข้เลือดออกในกลุ่มผู้สูงอายุ

4. ผู้ที่มีโรคประจำตัว

ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว จะมีสภาพร่างกายที่อ่อนแอและมีภมูิคุ้มกันที่ต่ำเป็นทุนเดิม

เมื่อเกิดการติดเชื้อของโรคไข้เลือดออก จะสามารถทำให้อาการของโรคประจำตัวกำเริบและเกิดสภาวะแทรกซ้อน ไม่ว่าจะเเป็นโรคไต โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคโลหิตจาง

อาการของโรคไข้เลือดออกก็ยังคงเกิดขึ้นควบคู่ไปด้วย ทำให้การรักษาเป็นไปด้วยความซับซ้อน และอาจเกิดสภาวะเสี่ยงได้ตลอดเวลา

ห่างไกลไข้เลือดออกด้วย นวัตกรรม
" Leo - Trap"

“Leo – Trap กับดักไข่ยุงลาย” นวัตกรรมที่สร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหายุงลายจากต้นตอ ตัวกับดักทำงานโดยการล่อยุงลายให้เข้ามาวางไข่ในกับดัก และเมื่อไข่ฟักตัวจะเจอกับสารกำจัดลูกน้ำยุงลาย หรือ สารเอซายที่ใส่ไว้ภายในกับดัก ทำให้ลูกน้ำยุงลายตายลง

“Leo – Trap กับดักไข่ยุงลาย” ผ่านการวิจัยจากทางกรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ว่า สามารถล่อยุงลายเข้ามาไข่ได้ 500 ฟอง/สัปดาห์ ไม่ใช้ไฟฟ้า ไม่ใช้สารเคมี ปลอดภัยต่อคนและสัตว์ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

"อย่าปล่อยให้ยุงลาย ทำร้ายคนที่คุณรัก"

แนบหลักฐานการโอนที่นี่

ยอดชำระทั้งสิ้น